วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2563

14 วิธีในการประหยัดเงินในอาหารไก่


14วิธีประหยัดอาหารไก่

1. ราคาอาหารสัตว์แต่ละโรงงานมีราคาแตกต่างกัน  แต่ต้องจำไว้ว่า - ราคาถูกกว่าไม่ดีกว่าเสมอไปและถ้าคุณให้อาหารที่มีคุณภาพต่ำพิเศษมันอาจส่งผลต่อสุขภาพของไก่ของคุณ

2. ผสมฟีดของคุณเอง การผสมอาหารเองก็ใช่ว่าจะราคาถูกกว่าเสมอไป หากเลือกวัตถุดิบไม่ดีผสมแล้วอาจราคาแพง ... อย่างไรก็ตามฉันแนะนำให้หาสูตรที่คุณชอบ แล้วเลือกซื้อวัตถุดิบจากร้านอาหารสัตว์ท้องถิ่นเพื่อดูว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใดในการผสม นอกจากนี้อย่าลืมตรวจสอบกับเกษตรกรในพื้นที่ของคุณ บางครั้งพวกเขาจะมีข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง รำ ปลายข้าวหรืออื่นๆ ที่เหลือจากการใช้หรือขาย เขาต้องการขายราคาต่ำนอกฤดูกาล อันนี้จะช่วยได้มาก
3. รวมกลุ่มซื้ออาหาร การซื้อเป็นกลุ่มจะช่วยประหยัด การรวมกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ใกล้ชิดกันลงอาหารจากโรงงานโดยตรงโดยไม่ผ่านคนกลางก็ช่วยประหยัดได้ 
4. การหมักอาหารไก่ของคุณ การหมักอาหารไก่ของคุณช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการอย่างมากและลดปริมาณที่กินเข้าไป ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะหมักอาหารไก่ก็เป็นสิ่งจำเป็น ลองหาข้อมูลสูตรหมักต่างๆ มาใช้
5. หยุดให้อาหารแบบหว่านหรือเทตามพื้น เพราะวิธีนี้ทำให้เกิดการสูญเสียอาหารจำนวนมาก ดังนั้นควรเน้นให้อาหารโดยภาชนะที่ช่วยประหยัดป้องกันกันตกหล่นเสียหาย
6. เน้นเลี้ยงแบบปล่อย เป็นวิธีที่มันเป็นไปไม่ได้สำหรับทุกคน แต่ถ้าคุณทำได้ให้ไก่จะได้อาหารเสริมและยังสามารถช่วยควบคุมประชากรแมลงและวัชพืช นอกจากนี้ยังมีการผ่อนคลายสำหรับไก่
7. นำเศษผักและวัชพืชจากสวนจากไร่มาใช้ในการเลี้ยง วิธีนี้ก็ช่วยประหยัดได้ โดยเรามองหาสิ่งเหล่านี้จากรอบตัว
8. ขอเศษผักและผลไม้เหลือใช้ที่ร้านขายของชำ ร้านค้าในตลาดบางแห่งอาจอนุญาตให้ทำได้ เศษผัก ขนมปัง  เศษอาหารที่มีคุณค่ายังมีอยู่หลากหลาย  เพียงแต่ให้เลือกแหล่งและสถานที่  ที่เหมาะสมเท่านั้น
9. ปลูกพืชอาหารสัตว์ของคุณเอง ธัญพืชพืชคลุม พืชผักผลไม้ ดอกทานตะวันและพืชผักต่าง ๆ เป็นอาหารที่ดีของไก่
10. ปลูกแหน แหนเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสำหรับไก่ ถ้ามีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกแหนเพื่อเป็นอาหารไก่ได้
11. เลี้ยงด้วงหรือหนอน ยโดยใช้วัสดุพวกแกลบ ขี้เลื่อย ฟางข้าว กากอ้อย มากองสุมรวมเป็นเวลานานๆ จะเกิดหนอน มด แมลง ด้วงให้ไก่ได้ขุ้นเขี่ย
12. เศษอาหารจากครัวของคุณ ควรเก็บในถังเล็ก ๆ ไว้ เปลี่ยนขยะในครัวให้กลายเป็นอาหารที่ดีของไก่
13. ขายไข่ การขายไข่ส่วนเกินเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการชดเชยต้นทุนอาหารสัตว์และทำให้ไก่ของคุณจ่ายคาอาหารเอง นอกจากนี้ยังมีใครบางคนที่ต้องการไข่จากฟาร์มที่สดอยู่เสมอ 
14. คัดหาแม่ไก่ที่ไม่มีประสิทธิภาพในการไข่ ไก่จำนวนมากมีประสิทธิภาพในการไข่ไม่เท่ากัน การคัดไก่ที่มีประสิทธิภาพต่ำออกจะช่วยลดต้นทุนได้

หนึ่งวิธีดัดแปลงผลิตอาหารไก่จากวัสดุรอบตัว

สำหรับคนที่เลี้ยงไก่ในบริเวณบ้าน เรามีสูตรการทำอาหารสำหรับไก่โดยใช้วัตถุดิบที่หาง่าย ใกล้ตัวมาให้ได้ลองทำกัน ก่อนอื่นเราลองไปเดินดูรอบ ๆ บ้านกันดีกว่าว่ามีพืชผักอะไรบ้างที่เราสามารถนำมาทำเป็นอาหารไก่ได้บ้าง พืชที่เจอในบริเวนบ้านที่เป็นอาหารไก่ได้ ก็มีเอาล่ะเดินดูภายในบ้านจนทั่วแล้ว วันนี้เรานำต้นกล้วยมาทำเป็นอาหารสัตว์กัน โดยที่เราจะใช้ต้นกล้วยสาว (ต้นกล้วยที่ยังไม่เคยออกเครือ) เพราะมีสารอาหารเยอะกว่า 



ไปดูส่วนผสม และวิธีทำกันเลยดีกว่า ?

ส่วนผสม
  • ต้นกล้วยสาว 30 กิโลกรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม
  • หัวเชื้อน้ำหมักสับปะรด
วิธีทำ
  • สับต้นกล้วยให้แหลก
  • ใส่น้ำหมักสัปปะรด
  • ผสมให้เข้ากัน ลงในถังที่มีฝาปิด
  • นำมาหมักเพื่อสร้างกรดอะมิโน เพื่อสร้างโปรตีนโดยหมัก 5-7 วัน
นำผักต่าง ๆ ที่เจอในบ้านไม่ว่าจะเป็น ใบถั่ว ใบฝรั่ง ใบหม่อน เศษหญ้า ต่าง ๆ หรือแม้แต่เศษอาหารที่เราเหลือในบ้าน นำมาผสมทำเป็นอาหาร หรือสามารถให้ไก่โดยไม่ผสมได้อีกด้วย

วิธีทำหัวเชื้อน้ำหมักสับปะรด
ส่วนผสม
  • เปลือกสับปะรด
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำสะอาด
วิธีทำ
  • นำเปลือกสับปะรด ใส่ลงในถังหรือภาชนะที่เตรียมไว้
  • ใส่น้ำตาลทรายแดงประมาณ 1 ขีด
  • เติมน้ำลงไปในถังหมักให้เหลือพื้นที่จากฝาถังประมาณ 1 ฝ่ามือเพื่อให้มือพื้นที่อากาศให้กับจุลินทรีย์ ปิดฝาหมักทิ้งไว้ 3 – 5 เดือน
ส่วนหน่อกล้วย หรือรากของกล้วยที่เหลือจากการทำอาหารให้ไก่อย่าเพิ่งทิ้งนะครับ เรานำมาปรับสภาพของดินได้ หรือล้างเคมีตกค้างที่อยู่ในดินได้

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2563

แนวคิดเกษตรผสมผสานการเลี้ยงไก่บ้านร่วมกับการเลี้ยงหมู

ไก่บ้านเลี้ยงง่ายขายได้ราคา และยังจะมีอนาคตสดใสไปยาวนาน ประสบการณ์การเลี้ยงไก่บ้านเท่าที่เคยสัมผัสมาและเห็นว่าทำง่ายได้ผลดีคือการเลี้ยงร่วมกับการเลี้ยงหมู  ซึ่งมีวิธีการดังนี้  (นำเสนอแนวเกษตรพอเพียงนะครับไม่ใชเกษตรเชิงการค้า)





1.จัดทำคอกเล้าสำหรับเลี้ยงหมูเป็นสัดส่วนแยกให้ชัดเจน เลี้ยงน้อยๆ ไม่เกิน10ตัวหรือ 10แม่ ก็น่าจะพอดีสำหรับแรงงานตัวเองที่มีงานประจำทำ อันนี้เป็นงานเสริม  การเลี้ยงหมูจำนวนน้อยมันจะดีตรงที่เราสามารถหาอาหารเสริมได้ในเวลาว่าง เช่น หลังเลิกงาน เสาร์ อาทิตย์ ก็ใช้เวลาเหล่านี้หาผัก หาอาหารมาเก็บเพื่อใช้ผสมกับอาหารทีซื้อจากฟาร์มลดต้นทุนการผลิต หมูจะเป็นเงินเก็บพอเห็นเม็ดเงินขึ้นมาบ้าง  ถ้าเลี้ยงอาหารสำเร็จเตรียมเจ๊งได้เลย...คอกหมูควรทำเป็นพื้นคอนกรีตจะได้ทำความสะอาดง่ายด้านหลังทำเป็นรางเพื่อล้างหรือกวาดขี้หมูออกมารวมกันในแต่ละวัน รอบคอกกั้นตาข่ายไม่ให้ไก่เข้าไปบริเวณคอกหมู ถ้าใช้มุ้งเขียวกันแมลงได้ยิ่งดี
2. คอกไก่บ้านก็ทำเป็นสัดส่วนแยกจากคอกหมู มีคอกนอน คอกอนุบาลไก่เล็ก คอกขังไก่ใหญ่เหมือนการเลี้ยงไก่บ้านทั่วไป
3.จัดเตรียมแหล่งอาหารไก่จากขี้หมู โดยทำบ่อหมักขี้หมูเป็นบ่อเล็กๆ ทำด้วยปูน ให้สามารถใส่ขี้หมูได้วันละ 1 บ่อ ให้กวาดขี้หมูใส่บ่อวันรายวัน ทำไว้ 10 บ่อ  แต่ละบ่อให้ทำตะแกรงครอบป้องกันไก่เข้าไปคุ้ยเขี่ย ให้สังเกตุบ่อไหนมีตัวหนอนเกิดแล้ว ให้ยกตะแกรงออกให้ไก่เข้าไปคุ้ยเขี่ยกินตัวหนอน  ไก่จะโตเร็วมากกับการเลี้ยงแบบนี้ เราสามารถหมักขี้หมูและหมุนเวียนให้ไก่กินได้ทุกวัน
4. จัดแหล่งอาหารเช่นแปลงหญ้า กองฟาง กองขี้เลื่อยหรือแกลบไว้บริเวณเลี้ยงเพื่อให้ไก่ได้ขุ้ยเขี่ยหาอาหารธรรมชาติเสริม ไก่จะแข็งแรงเติบโตดี

วิธีการนี้เคยใช้เลี้ยงไก่ชนพม่าที่มีรอยขนาดเล็กให้มีตัวโต ๆ ได้  เพราะไก่ได้อาหารสมบูรณ์ เหมือนเด็กไทยตอนนี้จะตัวโตมากขึ้นกว่ารุ่นปู่ย่าเพราะความเป็นอยู่ดีขึ้นได้อาหารดีขึ้น  ไก่ก็เช่นเดียวกันครับ

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2563

วิธีการจัดสิ่งแวดล้อมในการผสมพันธุ์สัตว์ปีกที่ดี

วิธีการจัดสิ่งแวดล้อมในการผสมพันธุ์สัตว์ปีกที่ดี
คนเลี้ยงสัตว์ปีกส่วนมากมักลืมคำนึงถึงธรรมชาติของสัตว์คือความมีอิสระและสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ เมื่อต้องการผสมพันธุ์ก็มักจะจับขังในคอกหรือเล้าที่พอมี ตามมีตามเกิด บางคอกผสมไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยก็มี



ถามจริงๆ ถ้าถูกบังคับขนาดนั้นไก่ เป็ด ห่าน หรือนกจะมีอารมณ์ผสมพันธุ์ไหม คุณภาพไข่ที่ได้ ลูกเจี๊ยบที่เกิดเราจะคาดหวังคุณภาพได้อย่างไร ดังนั้นนักเลี้ยงทั้งหลายพึงสังวรการให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมในการผสมพันธุ์
วิธีการที่ 1 สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดในการผสมพันธุ์คือ การปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ มีแมกไม้ ชายคา มีแหล่งน้ำ มีพื้นที่แห้งและพื้นที่ชุ่มน้ำที่เหมาะสม แห้งอย่างเดียวก็ไม่เหมาะ ชุ่มน้ำอย่างเดียวก็ไม่เหมาะ มีรั้วรอบขอบชิดป้องกันสัตว์อื่นรบกวน ไก่หรือสัตว์ปีกมีอิสระในการเดินการหากิน การพักผ่อนที่เหมาะสมเขาจะผสมพันธุ์ในขณะที่ที่มีอารมณ์ผ่อนคลาย โอกาสผสมพันธุ์ติดจะสูง ไข่จะมีคุณภาพดี โอกาสฟักเป็นตัวสูง ดังนั้นใครก็ตามที่ใช้รูปแบบการผสมแบบนี้ถือว่าเป็นรูปแบบการผสมพันธุ์ที่ดีที่สุด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักพัฒนาสายพันธุ์ที่ต้องการลูกไก่คุณภาพสูง เช่นพวกเลี้ยงไก่ชน(ใครต้องการเลี้ยงไก่เก่งควรใช้ระบบผสมแบบนี้อย่าปล่อยรวมฝูงกับไก่ทั่วไปหรือไก่เล็ก) เลี้ยงไก่สวยงาม นกสวยงาม นกแข่งขันหรือสัตว์ปีกอื่นๆ
วิธีการที่ 2 หากเรามีข้อจำกัดจากข้อหนึ่ง ด้วยพื้นที่จำกัด ต้นทุนจำกัด เราก็สามารถทำแบบจำลองข้อหนึ่งโดยลดขนาดพื้นที่ลง จัดทำคอกผสมแบบพอเพียง ให้มีรั้วรอบขอบชิด มีพื้นที่รับแสงแดด มีร่มเงา (อย่าให้คอกตากแดดทั้งวันมันทรมานไก่ควรปลู่ต้นไม้บังแดดตอนเที่ยงถึงบ่าย) มีพื้นที่พักผ่อนเป็นกระบะฝุ่นหรือหลุมฝุ่น มีระบบน้ำสะอาดและการให้อาการที่ดี ใช้จำนวนผสมที่พอเหมาะอย่าให้แออัด แบบนี้ก็จะได้ผลผลิตที่ใกล้เคียงแบบที่ 1
วิธีการ 3 คอกผสมเชิงการค้าหรือธุรกิจ หากต้องการผลิตไข่จำนวนมาก การทำคอกย่อยๆ อาจยุ่งยากลงทุนสูง ก็สามารถจัดทำคอกผสมแบบคอกใหญ่ได้ โดยคอกหนึ่งอาจใช้แม่ไก่ 20-30ตัว พ่อไก่เป็น 10 ตัว จัดให้อยู่รวมกัน โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ มีหลุมฝุ่น มีน้ำสะอาด มีร่มเงา มีพื้นที่เดินอิสระบ้าง คอกนอนโปร่งอากาศถ่ายเทดี การผสมแบบนี้อาจไม่ดีเท่าแบบที่ 1และ 2 แต่จะได้ปริมาณไข่เยอะตอบสนองการผลิตเชิงปริมาณได้ดี วิธีแบบนี้ไม่สามารถใช้กับการเลี้ยงสัตว์ปีกเชิงคัดสรรคุณภาพได้
สรุปหาท่านต้องการสัตว์ปีกคุณภาพ การจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีคือจุดเริ่มต้นที่ต้องคำนึงก่อนสิ่งใด วันก่อนไปมหาํลัยเห็นยามเลี้ยงนกเขาเอาผสมกันในกรงเอาผ้าคลุมวางไว้กลางที่แจ้ง เห็นแล้วก็สงสารนกไม่รู้จะมีอารมณ์ผสมพันธุ์ไหม...น่าสงสารจริงครับ

หลุมฝุ่นสำหรับไก่สำคัญอย่างไร

ทำไมการอาบฝุ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับไก่ 

หากสังเกตให้ดีเราจะพบหลุมที่ไก่ขุดอยู่ทั่วไป ทางที่ดีคุณควรสร้างพื้นที่เก็บฝุ่นสำหรับไก่โดยเฉพาะ
สรุปคือ หลุ่มฝุ่นมีประโยชน์ต่อไก่คือ


1.การทำความสะอาดขนและผิวหนังของไก่
2.ช่วยกำจัดปรสิตภายนอกจากตัวไก่ได้ Parasites ภายนอกทั่วไป คือ ไร หมัด และเหาสัตว์ปีก

วิธีทำอ่างฝุ่นสำหรับไก่


วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563

การคัดเลือกสายพันธุ์ไก่บ้านหรือไก่พื้นเมือง

สายพันธุ์ต้นแบบคือสายพันธุ์ที่ใช้เป็นต้นเหล่าในการพัฒนาสายพันธุ์ของตนเองหรือของฟาร์มเพื่อสร้างเอกลักษณทางสายพันธุ์หรือต่อยอดทางพันธุกรรมให้โดดเด่นตามความต้องการของฟาร์ม
จุดอ่อนของการเลี้ยงไก่ในประเทศเราก็คือเราขาดการพัฒนาสายพันธุ์อย่างเป็นระบบไม่มีสายพันธุ์ที่โดดเด่น ส่วนมากซื้อกันมาก็ผสมเลี้ยงหรือจำหน่ายเลย ไม่มีการบันทึกประวัติหรือการทดลองอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ เมื่อเลี้ยงนานไปเราอาจประสบปัญหาไก่เลี้ยงยาก  หรืออ่อนแอ หรือลักษณะเด่นๆ หายไป เช่นกลุ่มเลี้ยงไก่ชนผสมไปมาไก่ไม่ค่อยเก่งเท่าเดิม พวกนี้คือลักษณะด้อยที่ปรากฎเกิดจากการผสมพันธุ์โดยขาดการคัดสรรสายพันธุ์




วิธีการคัดสรรสายพันธุ์
1.เลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีโครงสร้างสมบูรณ์สมส่วน จับดูกระดูกอกไม่คด ไม่ผอมมากหรืออ้วนมากเกินไป น้ำขนเงางาม ใบหน้าและหงอนแดง ดวงตาสดใส แข้งขาสมบูรณ์ ไม่ติดเชื้อโรค
2.ลักษณะเฉพาะทางสายพันธุ์ ต้องคัดให้ตรงตามที่ตนเองต้องการทั้งสายพ่อและสายแม่ เช่นต้องการไก่เนื้อดี  สายพ่อสายแม่ต้องเนื้อดีรูปทรงต้องดีกล้ามเนื้ออกเนื้อขาต้องดีเป็นต้น  หรือท่านที่คัดไก่ชนเราต้องการไก่ชนลักษณะใดเราก็ต้องหาลักษณะนั้นมาผสมกัน เช่นต้องการไก่ชนตีหลังเชิงมุดมัดเราก็ต้องหาลักษณะนี้มาทั้งเหล่ากอตัวผู้และตัวเมียแต่เอามาคนละเหล่า
3.การคัดเชิงคุณภาพไก่พื้นบ้านบางสายที่ต้องการลักษณะทางคุณภาพเป็นพิเศษ เพื่อนำมาผสมพันธุ์ตั้งต้นเหล่า เช่นคนเลี้ยงไก่ชนต้องการเลี้ยงเพื่อชน คุณภาพพิเศษของไก่ชนคือต้องตีเจ็บและต้องมีความมานะอดทนมีชัยชนะ พ่อแม่ทั้งสองฝั่งต้องมีคุณภาพสิ่งนี้ด้วย  คนเลี้ยงไก่เนื้อต้องการคุณภาพพิเศษ เช่นเนื้อดำ หนังดำ หรือผิวหนังเหลืองเนื้อสีชมพู  เวลาคัดพ่อแม่ก็ต้องมีคุณภาพพิเศษพวกนี้ด้วย
4.นำไก่จากข้อ3 สำหรับการคัดมาทำต้นแบบสายพันธุ์ มาผสมทำต้นเหล่า ควรมีอย่างน้อย 4 กลุ่มผสมที่มีักษณะคุณภาพที่เหมือนกันแต่คนละสายพันธุ์นำมาผสมข้ามกัน  
5.คัดลูกจากข้อ 4 ที่โดดเด่น มีลักษณะคุณภาพพิเศษที่เรากำหนดชัดเจนตามข้อ 3 มาทำต้นเหล่าผสมข้ามกันอีกครั้ง
หากสามารถทำในขั้นตอนที่ 6และ 7 ต่อเนื่องและทำได้หลายกลุ่มแล้วนำรุ่นลูกรุ่นหลายมาไขว้เพื่อคัดสรรสายพันธุ์ต่อเนื่องในที่สุดเราจะได้สายพันธุ์ที่โดดเด่นมีคุณภาพพิเศษของเราเอง เราก็บันทึกลักษณะเด่นทางสายพันธุ์ของเราให้ชัดเจน จะขายสายพันธุ์หรือทำฟาร์มผลิตไก่ขายก็จะมีคุณภาพสูง

วิธีป้องกันโรคฝีดาษไก่

วิธีป้องกันฝีดาษในไก่เล็ก
โรคฝีดาษป้องกันได้สองวิธีใหญ่คือ

1.การให้วัคซีนแบบแทงปีก ส่วนมากเกษตรกรไม่ค่อยทำเพราะหาซื้อยากและบางทีไก่ออกมาชุดหนึ่งมีไม่กี่ตัวไม่ค่อยจะคุ้มกับการลงทุน
2.การสร้างภูมิต้านทานให้โดยวิธีธรรมชาติ เริ่มจากเลี้ยงไก่เล็กโดยการขังสุ่มรวมกับแม่ไก่ให้ไก่นอนกับแม่ไก่ทุกวันในช่วงเล็กๆ หรือการกกไฟโดยเปิดไฟให้ไก่เพื่อสร้างความอบอุ่นในกรงอนุบาล....ทั้งสองวิธีเมื่อไก่เริ่มโตอายุ 1-2 เดือนจะเตรียมปล่อยลงดินหรือนำไปเลี้ยงในคอกที่ใหญ่เพื่อเตรียมปล่อยรวมฝูง จะต้องเริ่มฝึกให้ไก่สร้างภูิมต้านทานโรคฝีดาษโดยการปิดเปิดไฟเป็นระยะ เช่นไม่เปิดช่วงหัวค่ำเพื่อปล่อยยุงกัดไก่บ้าง แล้วเปิดไฟตอน2-3ทุ่มเพื่อลดปริมาณยุงที่กัดไก่ ไก่จะจิกกินยุงช่วงเปิดไฟ ทำแบบนี้สลับไปเรื่อยซัก1เดือน สังเกตุถ้าไก่ไม่สดชื่นต้องเปิดไฟต่อเนื่อง แต่ถ้าไก่ยังดูปกติก็ทำต่อเนื่องจนเห็นว่าไก่มีภูมิต้านทานแล้วก็ปิดไฟตลอดไปได้ ซึ่งตอนนี้ไก่น้อยก็จะมีขนหุ้มตัวเพียงพอป้องกันความหนาวได้แล้ว
อันนี้คือวิธีง่ายๆ ใช้ได้ผลดีกับการเลี้ยงไก่เล็กๆ
ส่วนวิธีรักษาฝีดาษเมื่อเป็นแล้ว ให้ใช้ยาฆ่าเชื้อทั่วไปทาบริเวณที่เป็น เช่นยาเดตตอล ชนิดเจลเป็นหลอดใช้ทาได้ผลดี หรือใช้ยาทิงเจอร์ ยาเบต้าดีน ยาแดงก็ได้ครับ


เข้าใจไก่ไข่ของคุณดีหรือยัง

ชุดพ่อพันธุ์ 2023

 ชุดพ่อพันธุ์พัฒนาในช่วงปี2023 บางส่วน