การพัฒนาพันธุ์สัตว์มีแนวทางการผสมที่สำคัญสองแนวทางใหญ่ ๆ คือ



1.การผสมแบบinbreeding คือการผสมพันธุ์สัตว์ที่คู่ผสมพันธุ์มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติใกล้ชิดกัน ไม่ว่าจะเป็นพ่อกับลูก แม่กับลูก ลูกครอกเดียวกัน หรือแม้กระทั่ง ลุง ป้า น้า อา กับหลานก็จัดอยู่ในกลุ่มอินบรีดดิ้งทั้งสิ้น
2.การผสมแบบlinebreeding คือการผสมพันธุ์สัตว์แบบอินบรีดดิ้งชนิดหนึ่งแต่วิธีการนี้จะไม่ผสมพันธุ์สัตว์ที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติใกล้ชิดกันมากๆ หลักการคือจะพยายามที่จะให้เกิดการผสมเลือดชิดน้อยลง แต่ต้องการรักษาเลือดของสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งที่ดีเป็นพิเศษเอาไว้ มีวิธีการได้หลายแบบตามใจนักผสมพันธุ์ต้องการ
สมมุติเช่นมีพ่อไก่ชนตัวหนึ่งเก่งสุดยอด เราก็เอามาผสมกับตัวเมียที่ดีของเราได้ลูกออกมาครอกนึง หลังจากนั้นเราจะทำสายต่อ (ถ้าลูกผสมกันเองหรือลูกผสมกับพ่อจัดเป็นอินบรีดดิ้ง) และต้องการจะทำไลน์บรีดของพ่อไก่ตัวเก่ง อาจทำได้โดยคัดเลือกลูกตัวผู้สองตัวที่เหมือนพ่อที่สุดมา ก็เอาลูกตัวแรกผสมกับตัวเมียจากครอกA ลูกตัวที่สองผสมกับตัวเมียจากครอกB ลูกที่ได้จากทั้งสองครอกนี้คัดเลือกตัวที่เหมือนปู่มากที่สุดเอามาผสมพันธุ์ไขว้กัน จะได้ลูกไก่ชนที่มีเลือดสุดยอดพ่อไก่อยู่ 25% โดยเฉลี่ย ในสัตว์ที่ใช้การผสมเทียมมีการทำน้ำเชื้อแช่แข็งเก็บไว้จะสามารถมีลูกเล่นในการผสมไลน์บรีดดิ้งได้หลากหลาย เช่นเอาหลาน เหลนกลับไปผสมกับทวดอีกครั้ง
ข้อดีของไลน์บรีดดิ้งคือถ้าในชนิดสัตว์ที่มีผลกระทบจากการผสมเลือดชิดง่าย เช่นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปศุสัตว์ทั่วไป หรือแม้แต่สัตว์ที่อาจมียีนส์ผิดปกติแฝงอยู่การเกิดความผิดปกติจะเกิดน้อยลง
ข้อดีของอินบรีดดิ้งคือได้ความสม่ำเสมอของรุ่นลูกที่เกิดขึ้น รักษาลักษณะที่ดี ๆ ในฝูงสัตว์นั้นให้คงอยู่
ข้อเสียมีคล้ายกันคือ เกิดความผิดปกติในสัตว์ที่มียีนส์ที่ผิดปกติ หรือความแข็งแรงต้านทานโรคลดลง มากน้อยขึ้นกับชนิดของสัตว์ด้วย โอกาสของอินบรีดจะเกิดสูงกว่าไลน์บรีด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น