ในอดีตช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ไก่รอยมาตรฐานที่นิยมเลี้ยงกันมากๆ คือรอย 2.9-3.3 กก. บางตัวถ้าเก่งอาจมีรอยชนถึง 3.7 กก.ก็ยังมีคู่ชนไก่รอยแบบนี้จะเป็นชนไก่ชนแพงหรือไก่เดินสาย ถ้าเป็นไก่รอยเล็ก 2.5-2.8 กก.ส่วนมาก็ชนตามหมู่บ้านบ่อนป่า ไปบ่อนใหญ่ก็ไม่มีคู่หรือต้องแบกน้ำหนัก
ช่วง20 ปี (ประมาณ 2540)ที่ผ่านมาไก่พม่ามามีบทบาท ตัวเล็กสามารถตีตัวใหญ่ได้ ไก่พม่าดีๆ สามารถแบกน้ำหนักตีได้เห็นบ่อยๆ คนก็เริ่มนำไก่พม่าเข้ามาเลี้ยง เป็นลูกผสม ง่อนม่าหรือไทยม่า ทำให้ไก่ชนม่รอยเล็กลงตามต้นแบบไก่พม่า
ไก่พม่าร้อยจริงๆ ที่ผู้เขียนนำมาเลี้ยงช่วงแรก มาจากแม่สายเชียงรายและท่าขี้เหล็กของพม่า เขาหากใส่ตะกร้าสานมา ตัวผู้โตสุดก็ 2.2-2.3 เท่านั้นเอง ส่วนมากจะรอย1.8-2.2กก. ตัวไหนที่โตถึง 2.5 กก.นี่แย่งกันซื้อ ยุคปี 2540-2550 นี่คือยุคที่ไก่พม่าอพยพมายังประเทศไทยมากที่สุดเกิดเครือข่ายค้าไก่พม่าทางภาคเหนือเพื่อส่งไก่ขายยังภาคอื่นๆ ทั่วไทย
ไก่พม่าเมื่อนำมาพัฒนาผสมกับสายอื่น เช่นง่อน ไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน บราชิล ฯลฯ (วันนี้กำลังไปสู่การผสมกับเปรู อินเดีย ปากีฯ อาหรับ ฯลฯ) ก็แตกลูกแตกหลานไปหลายลักษณะ ที่เด่นๆ คือมีขนาดที่โตขึ้น โครงสร้างดีขึ้นมาก
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
ปัจจุบันรอยชนมาตรฐานสนามใหญ่ชนแพง รอยไก่ก็จะอยู่ในช่วง 2.7-3.0 กก. บางตัวอาจมีน้ำหนักถึง3.1-3.2 ก็มีเห็นอยู่แต่ไม่บ่อย ซึ่งแสดงว่าไก่มาตรฐานสำหรับสังคมไก่ชนวันนี้คือรอย2.7-3.0กก. ถ้ารอยต่ำกว่านี้ส่วนมากก็ชมรมหรือบ่อนป่า ถ้าไปสนามใหญ่โอกาสได้แบกน้ำหนักก็มีสูง (ข้อสังเกตยังไม่ปรากฎไก่ชนรอย2.4-2.5กก.ชนระดับเงินแสนเงินล้านบ่อยนักหรือแทบไม่มีเลย)
ดังนั้นการเลี้ยงไก่ให้ได้มาตรฐานสำหรับการเล่นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะทำให้ไก่ที่เลี้ยงมีราคาดี ถ้าเรามีไก่เก่ง 2.4กก. จะบอกราคาหมื่นราคาแสนก็ขายยาก นี่คือตัวชี้วัดมาตรฐานการเล่นไก่
แต่ก็มีปัญหาว่าไก่พม่ารอยใหญ่ทำให้เก่งมันยาก แต่รอยเล็กทำให้เก่งง่าย นี่ก็เป็นความจริงดังนั้นการพัฒนาจึงต้องเดินต่อไปไม่สิ้นสุด
ผมเคยซื้อแม่พม่าแม่สะเรียงร้อยตัวเล็กๆมาเพาะ ได้ไก่รอยเล็กบินเท้าไม่ติดดิน ทั้งตัวผู้ตัวเมียตีดีมาก แต่ติดที่มันเล็ก พอเอามาผสมง่อน ผสมไต้หวันมันโตขึ้นมันก็ไม่ค่อยบินแบบเดิม...หรือเพาะไก่ลีลาล่อสั้น พอเอามาผสมผ่านสายเลือดมันก็กลายเป็นไก่ท่องหัวให้เขาตี ดังนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นจึงสรุปจากประสบการณ์ว่าสูตรการพัฒนารอยไก่ให้โตขึ้นโดยคงความเก่งไว้เช่นเดิมนี่ ยังทำไม่ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็จะมีออกมาเก่งบ้างบางตัว ซึ่งก็ถือว่าเป็นเสน่ห์ของการพัฒนาไก่ชนต่อไป ..เพราะทุกคนก็ต่างตั้งความหวังว่าเพาะแล้วจะเก่งทั้งคอก...ซึ่งนี่มันกิเลสล้วนๆ เลยนะ