พ่อหลวงสุพจน์มีความสนใจและรักไก่ชนตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหาร ก็ถูกคัดเลือกเข้าประจำการและมีโอกาสรู้จักกับเพื่อนทหารจากจังหวัดตราดที่ชื่นชอบไก่ชนเช่นเดียวกัน หลังจากพ้นประจำการจึงได้นำไก่ชนจากเพื่อนทหารที่จังหวัดตราด กลับมาเลี้ยงที่บ้านเหล่าป่าก๋อย โดยได้เฉพาะพ่อไก่มาจากตราดและนำมาผสมพัฒนากับไก่พื้นบ้านเหล่าป่าก๋อย ลูกหลานที่ได้ปรากฎว่ามีชั้นเชิงแตกต่างจากไก่เหนือทั่วไป คือ มีเชิงเข้าปีก มุดมัด เอี้ยวเลี้ยวคอบน กอดกดขี่ มีบ้างบางตัวคาบบ่าตีตัว และในรุ่นถัด ๆ มาจึงคัดผสมให้มีลงเหล่าคาบบ่าตีตัวเป็นลักษณะเฉพาะ
เมื่อประมาณปี 2526-2527 สมัยนั้นเซียนไก่ชนไม่มีใครเล่นไก่ชนที่มีเชิงแบบไก่เหล่าป่าก๋อย แต่จะนิยมเล่นไก่สายพันธุ์พม่ามากกว่า จนกระทั่ง นายเดช ปาปวน ชาวหมู่บ้านเหล่าป่าก๋อย ได้เหล่ากอสายพันธุ์ไก่นี้มาจากพ่อหลวงสุพจน์ และ
นำออกชนตามสนามชนไก่ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และจังหวัดใกล้เคียง และได้รับชัยชนะ สร้างชื่อเสียงให้กับไก่ชนสายพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เซียนทางภาคเหนือพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไก่อะไรจิกกัดทั้งตัว" ไก่ตัวที่สร้างชื่อเสียง เช่น ไอ้สาวิดีโอ ,ไอ้สาน้อย และนายเดช ปาปวน มีเพื่อนที่สนิทและเล่นไก่ด้วยกัน คือ นายจำลอง ชัยปัน หรือที่รู้จักกันในนาม นายยืน ชาวบ้านหนองผ้าขาว ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ก็เป็นผู้ได้รับเหล่ากอและพัฒนาสายไก่เหล่าป่าก๋อย
หลังจากที่นายเดช เสียชีวิต นายจำลอง ชัยปัน หรือนายยืนได้นำไก่สายพันธุ์ของนายเดชมาเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์สืบต่อมา ไก่ชนที่ทำชื่อเสียงให้กับ นายจำลอง ชัยปัน หรือนายยืน ได้แก่ ไก่ชื่อไอ้แจ้ ซึ่งเป็นพ่อพันธุ์และให้ลูกเก่งออกมาหลายตัว คือ ไอ้ทหารเรือ ไอ้แดงน้อย ไอ้แดงหน้าง่อม ตัวที่นายยืน พูมใจที่สุดก็คือ ไอ้หนุ่มเหนือ คาราบาว หรือไอ้สามแสนสาม ชนชนะไก่พม่าที่สนามชนไก่ เวล จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2543 ไก่ตัวนี้เป็นไก่ลูกเพาะของตน เกิดที่บ้านหนองผ้าขาว หรือบ้านวังสวนกล้วย ไก่ชนไอ้หนุ่มเหนือคาราบาว นายยืนเพาะเลี้ยงและแบ่งกับครูรัน โดยครูรันเลี้ยงและออกชนในเขตภาคเหนือ จากนั้นครูรันได้ขายต่อให้กับคุณเลิศพงศ์ อดิศร หรือทนายก้อง
สายพัฒนาอีกสายหนึ่งคือคุณบุญเลิศ อินบุรี (ครูเลิศ) ครูเลิศกล่าวว่า ต้นกำเนินมาจาก ไก่พ่อหลวงสุพจน์ และคุณเสริฐ เอามาเลี้ยงไปชนที่เชียงใหม่และชนะมาตลอด ก็เลยขอแบ่งซื้อจากคุณเสริฐมาเลี้ยง เป็นไก่สีเขียว
การคัดเลือกพ่อพันธุ์ ครูเลิศ กล่าวว่า ต้องเป็นไก่ที่ชนชนะมาแล้ว คางเคราสีเหลือง หางดอก ส่วนแม่พันธุ์จะมีแม่เดิมเป็นหลักซึ่งเป็นเหล่าที่มีเชิงก้าบ หัวดอก ตกกระตามตัว แม่สีนี้จะให้ลูกเก่งค่อนข้างมากในแต่ละครอก ครูเลิศ กล่าวว่าไก่ที่เก่งมีชื่อเสียงคือไก่ของครูนิ่ม คือ เจ้าแก้วฟ้า
คุณอุปถัมน์ ใจธัญ (ครูนิ่ม) ครูนิ่มกล่าวว่า ไก่ที่ทำชื่อเสียงให้กับเหล่าป่าก๋อยตัวหนึ่ง เป็นไก่ลาย เจ้าของคือ พ่อหลวงเทวราชหรือพ่อหลวงนวย เป็นไก่ที่กัดบ่า ตีตัว ตีแรง ปีแรกตีได้ไม่กี่ครั้งก็พัก พอปีที่สองก็ออกชนที่เชียงใหม่ โดยมีครูเลิศและนายเดชเป็นผู้นำออกตี ครูนิ่มกล่าวว่า ได้สายพันธุ์มาจากพ่อหลวงนวย โดยตัวที่ได้มามีเชิงกัดบ่า ตีตัว เป็นหลัก
นอกจากนี้ยังพบผู้นิยมเลี้ยงไก่เหล่าป่าก๋อยอีกหลายท่านในภาคเหนือ ซึ่งมีการเพาะพัฒนาต่อเนื่องกันมาจาถึงปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น